Journey to the West: การผจญภัยเหนือธรรมชาติของซุนหวูคง

 Journey to the West: การผจญภัยเหนือธรรมชาติของซุนหวูคง

การที่ได้เห็นศิลปะแบบดั้งเดิมอันวิจิตรของจีนที่สืบทอดต่อมาหลายร้อยปีนั้นเป็นประสบการณ์ที่น่ามหัศจรรย์อย่างแท้จริง ดังเช่นการอ่าน “Journey to the West” หรือ “西遊記” (สีโยวว์จี้) ในภาษาจีน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวที่เล่าถึงการเดินทางของพระถังซัมจั๋งไปสู่ดินแดนอินเดียเพื่อแสวงหาพระธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นงานศิลปะที่สะท้อนถึงปรัชญาและความเชื่อของชาวจีนในสมัยราชวงศ์หมิงอย่างลึกซึ้ง

“Journey to the West” นั้นได้รับการแต่งโดยอู่เฉิงเอ๋ิน (Wu Cheng’en) ซึ่งเป็นนักเขียนและกวีในยุคเดียวกันกับเช็คสเปียร์และโดนัลโช คิโคเต (Miguel de Cervantes). ผลงานของเขาถูกจัดอยู่ในหมวด “Xiaoshuo” ซึ่งหมายถึงเรื่องยาวที่มีลักษณะผสมผสานระหว่างความจริงและจินตนาการ

โครงสร้างของเรื่องราว

สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับ “Journey to the West” ต้องบอกเลยว่านี่คือเรื่องราวของพระถังซัมจั๋ง หรือชื่อจีนว่า ซุนหวูคง (孫悟空) ซึ่งเป็นลิงวิเศษผู้มีพลังเหนือมนุษย์และความสามารถในการแปลงร่าง เขาได้ถูกบีบบังคับให้ร่วมเดินทางไปยังดินแดนอินเดียเพื่อนำพระสุตรกลับมาสู่ประเทศจีน

การเดินทางของพระถังซัมจั๋งนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตรายมากมาย ทั้งยักษ์ มาร ร้าย และสิ่งมีชีวิตประหลาดต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของความท้าทายในชีวิตจริง พระถังซัมจั๋งไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคนั้นได้ด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากคณะพลพรรคของเขา ซึ่งประกอบไปด้วย ซุนหวูคง (ลิงวิเศษ), ห Zhu Bajie (สุกรยักษ์) และ Sha Wujing (รากษส) แต่ละตัวละครมีลักษณะและบุคลิกที่แตกต่างกัน และบทบาทที่สำคัญต่อการเดินทางครั้งนี้

ความหมายเชิงปรัชญา

“Journey to the West” ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องราวผจญภัยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดทางศาสนาพุทธและหลักธรรมของขงจื้ออย่างลึกซึ้ง

  • การต่อสู้ภายใน: การเดินทางของพระถังซัมจั๋งสามารถตีความได้ว่าเป็นการต่อสู้ภายในของมนุษย์ระหว่างกิเลสและความปรารถนาที่จะบรรลุถึงความตรัสรู้
  • การควบคุมตนเอง: ซุนหวูคง ตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของพลังและความแข็งแกร่ง

ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการควบคุมกิเลสและความโลภเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายสูงสุด

  • ความสามัคคี: การที่พระถังซัมจั๋งและคณะพลพรรคของเขาสามารถผ่านอุปสรรคร้ายๆไปได้นั้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและความสามัคคี
  • การชดใช้: ตัวละครอย่าง Zhu Bajie (สุกรยักษ์) ซึ่งเดิมทีเคยเป็นเทวดาที่ตกสวรรค์มาเกิดใหม่บนโลกมนุษย์

เป็นตัวแทนของการมีโอกาสไถ่โทษและกลับไปสู่เส้นทางแห่งความดีอีกครั้ง

**ความโดดเด่นของ “Journey to the West” **

นอกเหนือจากเนื้อหาที่ล้ำค่าแล้ว “Journey to the West” ยังมีความโดดเด่นในด้านรูปแบบ:

  • ภาษา: ภาษาจีนโบราณที่ใช้ในการแต่ง “Journey to the West”

นั้นมีความงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

  • ศิลปะ: ภาพประกอบในฉบับเก่าของ “Journey to the West”

นั้นมักจะเป็นงานศิลปะแบบดั้งเดิมของจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความวิจิตรบรรจงและความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพ

  • อิทธิพล: “Journey to the West” ได้รับการดัดแปลงเป็นละครเวที, ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์มาหลายครั้ง

ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ของงานชิ้นนี้ที่มีต่อวัฒนธรรมจีน

สรุป

“Journey to the West” เป็นผลงานวรรณกรรมที่ล้ำค่าและควรค่าแก่การอ่าน ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวผจญภัยที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาและความเชื่อของชาวจีนอย่างลึกซึ้ง และสามารถให้บทเรียนอันทรงคุณค่าแก่ผู้ที่ได้สัมผัส

ตารางเปรียบเทียบ “Journey to the West” กับวรรณกรรมจีนโบราณอื่นๆ:

ชื่อเรื่อง ศาสนา สไตล์
Journey to the West พุทธ ผจญภัย, ตำนาน
Romance of the Three Kingdoms คอนฟูเชียนนิซึม ก๊กมัด, สงคราม

| Water Margin | พุทธ, โทtao | ยากจน, การกบฏ |